ข้ามไปเนื้อหา

ฮิตสึกายะ โทชิโร่

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
รุ่นสำหรับพิมพ์ไม่ได้รับการสนับสนุนอีกต่อไปและอาจมีข้อผิดพลาด โปรดอัปเดตบุ๊กมาร์กและใช้ตัวเลือกสำหรับพิมพ์ที่มีมาให้ในเบราว์เซอร์แทน
ตัวละคร เทพมรณะ
ฮิซึกายะ โทชิโร่
อาชีพ ยมทูต หัวหน้าหน่วยที่ 10
วันเกิด 20 ธันวาคม
สีผม สีขาว
สีตา สีฟ้าอมเขียว
ส่วนสูง 133 เซนติเมตร
น้ำหนัก 28 กิโลกรัม
ดาบฟันวิญญาณ เฮียวรินมารุ
พากย์เสียงโดย ปาค โรมิ

ฮิซึกายะ โทชิโร่ (ญี่ปุ่น: 日番谷 冬獅郎โรมาจิHitsugaya Tōshirō) ขึ้นชื่อว่าอัจฉริยะที่สุด จากการ์ตูนเรื่อง บลีชเทพมรณะ โดยเป็นถึงยมทูตระดับหัวหน้าหน่วยที่10แห่ง13หน่วยพิทักษ์

ลักษณะนิสัย

อารมณ์อันรุนแรงที่ถูกแช่แข็งเอาไว้

หัวหน้าหน่วยมีขนาดตัวเล็กและอายุน้อยที่สุดใน13หน่วยพิทัก หัวหน้าหน่วยด้วย ในสมัยเด็กอิจิโนเสะ มากิเคยช่วยชีวิตไว้ ฮิซึกายะกังวลกับความสูงของตนเองมาก ฮิซึกายะมีผมสีขาวราวกับหิมะ แววตาและสีหน้าคมเข้มแทบจะตลอดเวลา เป็นคนฉลาดและมีความสามารถมาก หัวหน้าหน่วย8 เคียวราคุ เคยออกปากว่าฮิซึกายะเป็นยมทูตอัจฉริยะ อีกไม่กี่ร้อยปีฝีมืออาจแซงหน้าเขาไปก็ได้

ฮิซึกายะมีนิสัยค่อนข้างเป็นผู้ใหญ่เกินตัว มีความรับผิดชอบสูง และเพราะหัวหน้าขยันขันแข็งในหน้าที่การงานนั่นเอง ทำให้สมาชิกหน่วย10ขยันงานตามไปด้วย (ยกเว้นรองหัวหน้าที่ชอบอู้งานไปช็อปปิ้ง) เป็นเหตุให้หน่วยอื่นชอบแอบเอางานมาสุมไว้ที่หน่วย10 จึงกลายเป็นหน่วยที่งานชุกที่สุดในบรรดา13หน่วยพิทักษ์ ฮิซึกายะยังเป็นหัวหน้าหน่วยที่ได้รับคำสั่งให้ลงมาที่โลกมนุษย์บ่อยที่สุดในเรื่อง แต่ถึงอย่างไรก็ไม่เคยละทิ้งหน้าที่การงานให้ลูกน้องทำเลย

ประวัติ

ฮิซึกายะเกิดในเมืองลูคอนตะวันตกเขต 1 (จุนรินอัน)ซึ่งเป็นเขตที่สงบสุขมากที่สุดในเมืองลูคอนทั้ง 80 แห่ง เป็นขุนนางระดับกลาง และเป็นเพื่อนสมัยเด็กของฮินาโมริ แม้จะเข้าโรงเรียนยมทูตที่หลัง แต่กลับรุดหน้าด้วยพลังกดดันวิญญาณสูงยิ่งยวด จึงแซงหน้าฮินาโมริ ขึ้นเป็นหัวหน้าหน่วยที่ 10 และนับเป็นหัวหน้าหน่วยที่อายุน้อยที่สุดภายในเรื่อง ในอดีตเคยเป็นลูกน้องของคุโรซากิ อิชชิน หรือ ชิบะ อิชชิน (เคยเป็นอันดับ 3 ของหน่วยที่ 10)

  • อายุ : 100+ปี
  • วันเกิด : 20 ธันวาคม
  • สีผม : สีเงิน
  • สีตา : สีฟ้าอมเขียว
  • ส่วนสูง : 133 เซนติเมตร
  • น้ำหนัก : 28 กิโลกรัม
  • ดำรงตำแหน่ง : หัวหน้าหน่วยที่10 มา50กว่าปี
  • ดาบฟันวิญญาณ : เฮียวรินมารุ
  • คำปลดปล่อย : “จงสถิตเหนือฟ้าเหมันต์ เฮียวรินมารุ”
  • บังไค : ไดกุเร็นเฮียวรินมารุ
  • ความชอบส่วนตัว : ทำงานที่เหลืออยู่ให้หมด
  • ความถนัดส่วนตัว : ปั่นลูกข่าง
  • อาหารที่ชอบ : นัตโตะหวาน
  • อาหารที่ไม่ชอบ : เต้าหู้เหม็น
  • การพักผ่อนสบายๆในวันหยุด : ไปเยี่ยมท่านยายที่บ้านในเมืองลูคอน หรือแวะไปหาจิดันโบ

บทบาท

ภาคโซลโซไซตี้

ฮิซึกายะ ได้ปรากฏตัวครั้งแรกในการประชุมหัวหน้าหน่วยและได้ยินไอเซ็นพูดกับอิชิมารุอย่างมีลับลมคมใน จึงได้ไปเตือนฮินาโมริว่าให้ระวังพวกหน่วย3ไว้ และได้ออกมาอีกครั้งในการเข้าไปหยุดการต่อสู้ของคิระกับฮินาโมริ และสั่งให้นำทั้งคู่ไปขังไว้ในคุกของหน่วย 10 แล้วไปปรากฏที่หน้าที่ทำการหน่วย 3 เพื่อจะมาฆ่าอิชิมารุแต่ก็โดนฮินาโมริหันคมดาบใส่ ฮิซึกายะได้เห็นอิชิมารุมองตนที่กำลังต่อสู้แล้วยิ้ม จึงต่อยฮินาโมริให้สลบและเข้าต่อสู้กับหัวหน้าอิชิมารุ ฮิซึกายะหลบดาบของอิชิมารุ จึงได้พลั้งจะแทงฮินาโมริเข้า แต่โชคดีที่มัตสึโมโตะขวางไว้ทันจึงได้เดินทางไป 46 วังกลางเพื่อจะขัดขวางการประหาร แต่ก็พบ 46 วังกลางในสภาพที่เป็นซากศพ และได้เจอคิระจึงไล่ตามไปแต่พอรู้ว่าฮินาโมริกำลังตกอยู่ในอันตรายจึงได้สั่งให้ มัตสึโมโตะไล่ตามคิระต่อส่วนตนจะไปช่วยฮินาโมริ จึงได้พบกับ หัวหน้าหน่วย 5 ไอเซ็น โซสึเกะ ซึ่งไอเซ็นได้ทำร้ายฮินาโมริบาดเจ็บสาหัส ฮิซึกายะโกรธมากจนปะทุ เรียกปลดปล่อยสวัสดิกะ แต่ก็ยังสู้ไม่ได้ ถูกไอเซ็นฟันในดาบเดียว ได้รับบาดเจ็บสาหัส ภายหลังได้รับการช่วยเหลือจากหัวหน้าหน่วย4อุโนะฮานะ

ภาคเบาท์

ฮิซึกายะได้มาปรากฏตัวในภาคเบาท์ตั้งแต่ตอนเริ่มต้นการสืบสวนความเป็นมาของเบาท์ หลังจากที่เบาท์บุกเข้าไปในโซลโซไซตี ฮิซึกายะได้รับมอบหมายงานจาก ยามาโมโตะ เก็นริวไซ ชิเงคุนิ ให้เป็นผู้ดูแล ควบคุม และประสานงาน แต่เนื่องด้วยความยุ่งยากต่างๆ ที่เกิดขึ้นมากมาย ทำให้ฮิซึกายะทำงานพลาด ยามาโมโตะ เก็นริวไซ ชิเงคุนิ ไม่พอใจ

หลังจากนั้น ฮิซึกายะได้สู้กับโคกะและดัล และใช้ท่าเฮียวรินมารุจัดการดัลได้ โดยฮิซึกายะทำการปลดปล่อยสวัสดีกะเพื่อสู้กับโคกะ ในที่สุดฮิซึกายะก็สามารถเอาชนะโคกะ โดยก่อนที่โคกะจะโดนเสาน้ำแข็งของฮิซึกายะหล่นทับ โคกะพูดว่า:ฉันได้ไปโลกของฉันแล้วนะ ฮิซึกายะพูดว่า:ที่ไหนเหรอ โคกะพูดว่า:โลกที่ไม่มีสงครามน่ะ (สุดท้ายโคกะ ได้รับการช่วยเหลือจากโยรุอิจิ โดยการพาไปรักษาตัวกับ Ran Toa ยมทูตหญิงผู้ให้กับเนิดเบาท์)

ภาคอาร์รันคาร์

ฮิซึกายะได้ถูกส่งมายังโลกมนุษย์พร้อมกับยมทูตอีก 5 คนที่ถูกส่งมาพร้อมๆกัน คือ"คุจิกิ ลูเคีย" "มาดาราเมะ อิกคาคุ" "อายาเซงาว่า ยูมิจิกะ" "มัตสึโมโตะ รันงิคุ" และ "อาบาราอิ เร็นจิ" โดยได้ต่อสู้กับ อาร์รันคาร์ no.11 เชาหลง จนเอาชนะมาได้เพราะได้รับคำอนุญาตให้ปลดปล่อยพลังวิญญาณทั้งหมด แต่ก็ถึงขั้นบาดเจ็บสาหัส ตอนหลังฮิซึกายะก็ได้พบกับคารินซึ่งขอร้องให้ช่วยในการแข่งขันบอลกับพวกวัยรุ่นที่มาแย่งสนาม ฮิซึกายะก็ได้เล่นบอลกับคาริน แต่ในระหว่างเล่นก็มีฮอลโล่ว์ระดับมีนอสออกมา และเข้าทำร้ายคาริน แต่ได้ฮิซึกายะปกป้อง แล้วปลดปล่อยเฮียวรินมารุจัดการกับเมนอสไปได้

ต่อมาฮิซึกายะได้เจอกับลูปี เอสปาด้าอันดับ6 และโดนโจมตีจนบาดเจ็บสาหัส แต่ก็สามารถกลับมาเอาคืนและใช้ท่าคุกน้ำแข็งพันปีจัดการลูปีจนแทบสิ้นชีพ แต่ลูปีก็ได้รับการช่วยเหลือจากเอสปาด้าอันดับ4 อุลคิโอร่าแล้วหนีกลับลาส์ นอเช่

ภาคไอเซ็นบุกโลกมนุษย์

ฮิซึกายะได้ประมือกับเอสปาด้าหมายเลขสาม เทีย ฮาริเบล(เอสปาด้าแห่งการรับเคราะห์) และได้ใช้ท่าเฮียวเท็น เฮียกกะโซ ซึ่งเป็นความสามารถพื้นฐานอันรุนแรงที่สุดของเฮียวรินมารุออกมาและเกือบจัดการฮาริเบลได้อย่างราบคาบ แต่เมื่อวอนเดอไวซ์ มัลเจร่าปรากฏตัวออกมาและคำรามกึกก้อง อนุสรณ์ดอกไม้น้ำแข็งของฮซึกายะก็ถูกทำลาย ส่งผลให้ฮาริเบลคนชีพขึ้นมาอีกครั้ง

ทว่า เมื่อพวกไวเซิร์ดก็ปรากฏตัวขึ้นโดยริสะ ยาโดรุ และ ฮิโยริ ได้เข้ามาช่วยโทชิโร่ต่อสู้กับฮาริเบล แต่แล้วจู่ๆ ไอเซ็นก็เข้ามาฆ่าฮาริเบล ซึ่งเป็นเอสปาด้าคนสุดท้ายที่ยังหลงเหลืออยู่เพราะเห็นว่าไม่มีประโยชน์อะไรกับตนอีกแล้ว ต่อมาโทชิโร่ได้สู้กับไอเซ็นและสามารถแทงทะลุหน้าอกไอเซ็นได้สำเร็จแต่ทว่านั่นเป็นเพียงภาพลวงตาที่ไอเซ็นหลอกขึ้นด้วยกลยุทธ์ดึงความสนใจอันแนบเนียน กลับกลายเป็นว่าเขาแทงฮินาโมริเพื่อนรักเขาเอง โทชิโร่ถึงกลับบ้าคลั่งพุ่งไปไม่ระวังตัวจนถูกไอเซ็นตัดร่างเกือบครึ่งซีกไปข้างนึงได้รับบาดเจ็บสาหัส ไม่สามารถทำการต่อสู้ใดๆได้อีกจนร่วงลงมาบนพื้น

ภาคสงครามเลือด 1000 ปี

ฮิซึกายะได้เข้าสู้กับควินซี่ตนหนึ่งที่ได้ขโมยปล่อยปล่อยสวัสดิกะไป(I)แล้วหมดสติลง ต่อมาพบว่ากลายเป็นซอมบี้ แล้วเข้าต่อสู้กับ คุโรซึจิ มายูริ

ดาบฟันวิญญาณ

ขั้นต้น (ชิไค)

  • รูปร่างที่แท้จริง : เป็นผู้ชายร่างสูงสวมชุดญี่ปุ่นโบราณ ผมสีเขียวพรายน้ำ และมีรอยกากบาทน้ำแข็งอยู่บนใบหน้า ที่ผ้าคาดเอวห้อยโซ่รูปจันทร์ครึ่งเสี้ยว(โซ่ด้ามดาบของฮิซึกายะ) มือและเท้าเป็นน้ำแข็ง มีหางมังกร อุปนิสัยเยือกเย็น เงียบขรึม ไม่ค่อยพูด และมักทำให้สิ่งรอบๆตัวกลายเป็นน้ำแข็งได้ภายในพริบตาจนถูกโคเท็ตสึ อิซาเนะบ่นเอา เนื่องจากหลังจบศึกดาบฟันวิญญาณแล้ว ฮิซึกายะได้หมดสติไปและนอนพักอยู่ในหน่วย4 เฮียวรินมารุที่อยู่ด้วยทำให้ของต่างๆในห้องกลายเป็นน้ำแข็ง แม้อิซาเนะจะรีบทำให้อุณหภูมิเป็นปกติ แต่เพียงชั่วพริบตาก็กลายเป็นห้องแช่แข็งอีก
  • ความสามารถ : สร้างน้ำแข็งให้ออกมาในรูปมังกร ควบคุมสภาพอากาศได้และใช้โซ่ที่ออกมาจากด้ามดาบในการช่วยตรึงศัตรู และกักขังศัตรู

ขั้นปลดปล่อยสวัสดิกะ (บังไค)

  • ลักษณะ : หลังจากใช้จะมีน้ำแข็งจำนวนหนึ่งห้อหุ้มแขนขวาของฮิซึกายะไว้เป็นรูปมังกร และงอกออกไปเป็นปีก 1 คู่ ใช้ในการตั้งรับ และจะมีดอกไม้สี่แฉก12ดอกลอยอยู่ข้างหลัง โดยดอกไม้เหล่านี้จะเป็นบอกเวลาของการใช้ปลดปล่อยสวัสดิกะ เมื่อกลีบของดอกไม้หายไปทั้งหมดบังไคจะแสดงพลังขั้นสุดยอดด้วยการที่โทชิโร่เติบโตเป็นผู้ใหญ่
  • รูปแบบ 1 เฮียวริวเซ็นกะ (ดอกบัวทะลวงน้ำแข็ง) : เป็นการพุ่งใส่ศัตรูด้วยความเร็วสูง ทำศัตรูกลายเป็นน้ำแข็ง ลักษณะของน้ำแข็งจะยาวเหมือนเสาน้ำแข็งแนวนอน
  • รูปแบบที่ 2 เฮียวริวเซ็นบิ (มังกรน้ำแข็งสะบัดหาง) : เมื่อฟันใส่ศัตรู จะมีคลื่นน้ำแข็งออกมาจู่โจมเหมือนการสะบัดหางของมังกร (จากตอนที่ 390)
  • รูปแบบที่ 3 เฮียวริวเซ็นบิเช็คคู (มังกรน้ำแข็งสะบัดหางสะกดฟ้า) : เมื่อฟันใส่ศัตรู จะมีคลื่นน้ำแข็งออกมาจู่โจมเหมือนการสะบัดหางของมังกร ใช้โจมตีขึ้นข้างบนอย่างเดียว (จากตอนที่ 390)
  • รูปแบบที่ 4 กุนโจซึราระ (ฝูงวิหคเสาน้ำแข็ง) : เป็นการเรียกเสาน้ำแข็งขึ้นจากแผ่นน้ำแข็งเพื่อเข้าโจมตีศัตรูในรูปแบบพุ่งเข้าโจมตีหลายทิศทาง
  • รูปแบบที่ 5 เรียวเซ็นกะ(มังกรน้ำแข็งบุปผาสวรรค์) : เมื่อฟันใส่ศัตรู น้ำแข็งจะเกาะที่ร่างของศัตรู และทำให้ทั้งร่างของคู่ต่อสู้เป็นน้ำแข็ง หรือจะปล่อยพลังออกมาในรูปมังกรน้ำแข็งเพื่อโจมตีระยะไกลก็ได้ (มังกรอาจแตกต่างจากตอนปลดปล่อยขั้นต้นตรงที่มีปีก)
  • รูปแบบที่ 6 เซ็นเน็นเฮียวโร (คุกน้ำแข็งพันปี) : สร้างเสาน้ำแข็งขนาดใหญ่ล้อมรอบและบีบอัดแช่แข็งศัตรูไว้ ปรากฏครั้งแรกตอนที่ฮิซึกายะสู้กับเอสปาด้าลูปี
  • รูปแบบ 7 เฮียวเท็น เฮียกกะโซ (พิธีศพร้อยบุปผาเวหาน้ำแข็ง) :ท่าที่ฮิซึกายะเองยังไม่สามารถควบคุมได้เพราะทรงพลังเกินไป เป็นความสามารถพื้นฐานของเฮียวรินมารุ แต่เมื่ออยู่ในสภาพบังไค ก็จะเป็นท่าที่รุนแรงมากและไม่อยากจะใช้ในสภาพชิไคเพราะกลัวจะพลั้งมือฆ่าพวกพ้อง ใช้ครั้งแรกเมื่อตอนที่สู้กับฮาริเบลแล้วดอกไม้ที่หลังเหลือเพียงกลีบเดียว โดยสร้างหิมะโปรบปรายลงมาจากฟากฟ้าเมื่อเกาะติดกับศัตรูจะแช่แข็งศัตรูแล้วบานเป็นดอกไม้ หลังจากดอกไม้ทั้งหนึ่งร้อยดอกเบ่งบานครบคือวินาทีสุดท้ายของศัตรู