ข้ามไปเนื้อหา

ผลต่างระหว่างรุ่นของ "มาร์ก ฮิวส์"

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
เรียกดูประวัติแบบโต้ตอบ
← การแก้ไขก่อนหน้า
เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
เห็นภาพข้อความวิกิ
ไม่มีความย่อการแก้ไข
Secretsoil (คุย | ส่วนร่วม)
การแก้ไข 2,480 ครั้ง
ลไม่มีความย่อการแก้ไข
 
(ไม่แสดง 19 รุ่นระหว่างกลางโดยผู้ใช้ 12 คน)
บรรทัด 3: บรรทัด 3:
{{Infobox Football biography
{{Infobox Football biography
| playername = มาร์ก ฮิวส์
| playername = มาร์ก ฮิวส์
| image = [[ไฟล์:Mark Hughes juli 1991.JPG|200 px]]
| image = [[ไฟล์:1 mark hughes 2015.jpg|200 px]]
| fullname = Leslie Mark Hughes
| fullname = เลสลี มาร์ก ฮิวส์
| nickname = สปาร์กี้
| height = {{height|m=1.78}}
| height = 178 ซ.ม.
| position = [[กองหน้า]]
| position = [[กองหน้า]]
| dateofbirth = {{birth date and age|1963|11|1|df=y}}
| birth_date = {{birth date and age|1963|11|1|df=y}}
| cityofbirth = [[รัวบอน]], [[เร็กซ์แฮม]]
| birth_place = [[รัวบอน]], [[เร็กซ์แฮม]] {{flag|เวลส์}}
| countryofbirth = [[เวลส์]]
| dateofdeath =
| dateofdeath =
| years1 = 1980–86
| years = 1980–1986 <br />1986–1988 <br />1987–1988 <br />1988–1995 <br />1995–1998 <br />1998–2000 <br />2000 <br />2000–2002
| years2 = 1986–88
| clubs = [[สโมสรฟุตบอลแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด|แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด]] <br />[[สโมสรฟุตบอลบาร์เซโลน่า|บาร์เซโลน่า]] <br /> [[สโมสรฟุตบอลบาเยิร์น มิวนิค|บาเยิร์น มิวนิค]] (ยืมตัว) <br />[[สโมสรฟุตบอลแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด|แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด]]<br />[[สโมสรฟุตบอลเชลซี|เชลซี]] <br />[[สโมสรฟุตบอลเซาแทมป์ตัน|เซาแทมป์ตัน]] <br />[[สโมสรฟุตบอลเอฟเวอร์ตัน|เอฟเวอร์ตัน]] <br />[[สโมสรฟุตบอลแบล็คเบิร์น โรเวอร์ส|แบล็คเบิร์นโรเวอร์ส]] <br /> '''*แสดงสถิติเฉพาะในลีก*'''
| years3 = 1987–88
| caps (goals) = {{0}}89 {{0}} (37) <br />{{0}}28 {{0}}{{0}} (4) <br />{{0}}18 {{0}}{{0}} (6) <br />256 {{0}} (83) <br />{{0}}95 {{0}} (25) <br />{{0}}52 {{0}}{{0}} (2) <br />{{0}}18 {{0}}{{0}} (1) <br />{{0}}50 {{0}}{{0}} (6) <br />'''606 (164) '''
| years4 = 1988–95
⚫
| nationalyears = 1984–1999
| years5 = 1995–98
⚫
| nationalteam = [[ฟุตบอลทีมชาติเวลส์|เวลส์]]
| years6 = 1998–2000
| nationalcaps (goals) = {{0}}72 {{0}} (16)
| years7 = 2000
| manageryears = 1999–2004<br />2004–2008<br />2008–2010<br />2010-2012<br />2012-2012<br />2013-
| years8 = 2000–02
| managerclubs = [[ฟุตบอลทีมชาติเวลส์|ทีมชาติเวลส์]] <br />[[สโมสรฟุตบอลแบล็คเบิร์น โรเวอร์ส|แบล็คเบิร์นโรเวอร์ส]]<br />[[สโมสรฟุตบอลแมนเชสเตอร์ซิตี|แมนเชสเตอร์ ซิตี้]]<br />[[สโมสรฟุตบอลฟูแลม|ฟูลัม]]<br />[[สโมสรฟุตบอลควีนส์พาร์กเรนเจอส์|ควีนส์พาร์คเรนเจอร์ส]]<br />[[สโมสรฟุตบอลสโตกซิตี|สโตกซิตี]]
| clubs1 = [[แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด]]
|clubs2 = [[สโมสรฟุตบอลบาร์เซโลนา|บาร์เซโลนา]]
| clubs3 = → [[สโมสรฟุตบอลไบเอิร์นมิวนิก|ไบเอิร์นมิวนิก]] (ยืมตัว)
| clubs4 = [[สโมสรฟุตบอลแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด|แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด]]
| clubs5 = [[สโมสรฟุตบอลเชลซี|เชลซี]]
| clubs6 = [[สโมสรฟุตบอลเซาแทมป์ตัน|เซาแทมป์ตัน]]
| clubs7 = [[สโมสรฟุตบอลเอฟเวอร์ตัน|เอฟเวอร์ตัน]]
| clubs8 = [[สโมสรฟุตบอลแบล็กเบิร์นโรเวอส์|แบล็กเบิร์นโรเวอส์]]
| caps1 = 89
| goals1 = 37
| caps2 = 28
| goals2 = 4
| caps3 = 18
| goals3 = 6
| caps4 = 256
| goals4 = 83
| caps5 = 95
| goals5 = 25
| caps6 = 52
| goals6 = 2
| caps7 = 18
| goals7 = 1
| caps8 = 50
| goals8 = 6
⚫
| nationalyears1 = 1984–1999
⚫
| nationalteam1 = [[ฟุตบอลทีมชาติเวลส์|เวลส์]]
| nationalcaps1 = 72
| nationalgoals1 = 16
| manageryears1 = 1999–2004 |managerclubs1 = [[ฟุตบอลทีมชาติเวลส์|ทีมชาติเวลส์]]
| manageryears2 = 2004–2008 |managerclubs2 = [[สโมสรฟุตบอลแบล็กเบิร์นโรเวอส์|แบล็กเบิร์นโรเวอส์]]
| manageryears3 = 2008–2009 |managerclubs3 = [[สโมสรฟุตบอลแมนเชสเตอร์ซิตี|แมนเชสเตอร์ซิตี]]
| manageryears4 = 2010–2011 |managerclubs4 = [[สโมสรฟุตบอลฟูแลม|ฟูลัม]]
| manageryears5 = 2012 |managerclubs5 = [[สโมสรฟุตบอลควีนส์พาร์กเรนเจอส์|ควีนส์พาร์กเรนเจอส์]]
| manageryears6 = 2013–2018 |managerclubs6 = [[สโมสรฟุตบอลสโตกซิตี|สโตกซิตี]]
|manageryears7 = 2018 |managerclubs7 = [[สโมสรฟุตบอลเซาแทมป์ตัน|เซาแทมป์ตัน]]
| manageryears8 = 2022–
| managerclubs8 = [[สโมสรฟุตบอลแบรดฟอร์ดซิตี|แบรดฟอร์ดซิตี]]
}}
}}
'''เลสลี มาร์ก ฮิวส์''' ({{lang-en|Leslie Mark Hughes}}) มีชื่อเล่นในวงการฟุตบอลว่า ''สปาร์กี้'' เป็นอดีต[[นักฟุตบอล]][[ฟุตบอลทีมชาติเวลส์|ทีมชาติเวลส์]] และปัจจุบันเป็นผู้จัดการทีม[[สโมสรฟุตบอลสโตกซิตี|สโตกซิตี]] ผลงานในการรับใช้ชาติของเขาคือการลงเล่นให้[[ฟุตบอลทีมชาติเวลส์|ทีมชาติเวลส์]] 72 นัด และยิงประตูได้ 16ประตู
'''เลสลี มาร์ก ฮิวส์''' ({{lang-en|Leslie Mark Hughes}}) มีชื่อเล่นในวงการฟุตบอลว่า ''สปาร์กี้'' เป็นอดีต[[นักฟุตบอล]][[ฟุตบอลทีมชาติเวลส์|ทีมชาติเวลส์]] ปัจจุบันเป็นผู้จัดการทีมให้กับ[[สโมสรฟุตบอลแบรดฟอร์ดซิตี|แบรดฟอร์ดซิตี]] ใน[[อีเอฟแอลลีกทู]]


ฮิวส์เคยเป็นผู้จัดการทีมหลายสโมสร ได้แก่ [[สโมสรฟุตบอลแบล็กเบิร์นโรเวอส์|แบล็กเบิร์นโรเวอส์]], [[สโมสรฟุตบอลแมนเชสเตอร์ซิตี|แมนเชสเตอร์ซิตี]], [[สโมสรฟุตบอลฟูแลม|ฟูลัม]], [[สโมสรฟุตบอลควีนส์พาร์กเรนเจอส์|ควีนส์พาร์กเรนเจอส์]], [[สโมสรฟุตบอลสโตกซิตี|สโตกซิตี]] และ [[สโมสรฟุตบอลเซาแทมป์ตัน|เซาแทมป์ตัน]] ผลงานในการรับใช้ชาติของเขาคือการลงเล่นให้[[ฟุตบอลทีมชาติเวลส์|ทีมชาติเวลส์]] 72 นัด และยิงประตูได้ 16 ประตู
⚫
ในช่วงชีวิตการเป็นนักฟุตบอลของเขานั้นผู้คนจดจำเขาได้เป็นอย่างดีจากการลงเล่นให้[[สโมสรฟุตบอลแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด|แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด]]ทั้ง2ช่วง แต่เขากลับไม่ประสบความสำเร็จนักเมื่อต้องออกไปค้าแข้งในต่างแดนกับ[[สโมสรฟุตบอลบาร์เซโลน่า|บาร์เซโลน่า]] ใน[[สเปน]]และ [[สโมสรฟุตบอลบาเยิร์น มิวนิค|บาร์เยิร์น มิวนิค]] ใน[[เยอรมันตะวันตก]] นอกจากนี้ที่อังกฤษเขายังเคยเล่นให้สโมสร[[สโมสรฟุตบอลเชลซี|เชลซี]],[[สโมสรฟุตบอลเซาแทมป์ตัน|เซาแทมป์ตัน]],[[สโมสรฟุตบอลเอฟเวอร์ตัน|เอฟเวอร์ตัน]] และสโมสรสุดท้ายที่เขาลงเล่นคือ[[สโมสรฟุตบอลแบล็คเบิร์น โรเวอร์ส|แบล็คเบิร์นโรเวอร์ส]] ก่อนที่เขาจะเลิกเล่นอย่างเป็นทางการในปี 2002

⚫
ในช่วงชีวิตการเป็นนักฟุตบอลของเขานั้นผู้คนจดจำเขาได้เป็นอย่างดีจากการลงเล่นให้[[สโมสรฟุตบอลแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด|แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด]]ทั้ง 2 ช่วง แต่เขากลับไม่ประสบความสำเร็จนักเมื่อต้องออกไปค้าแข้งในต่างแดนกับ[[สโมสรฟุตบอลบาร์เซโลนา|บาร์เซโลนา]]ใน[[สเปน]]และ[[สโมสรฟุตบอลไบเอิร์นมิวนิก|ไบเอิร์นมิวนิก]]ใน[[เยอรมนีตะวันตก]] นอกจากนี้ที่อังกฤษเขายังเคยเล่นให้สโมสร[[สโมสรฟุตบอลเชลซี|เชลซี]], [[สโมสรฟุตบอลเซาแทมป์ตัน|เซาแทมป์ตัน]], [[สโมสรฟุตบอลเอฟเวอร์ตัน|เอฟเวอร์ตัน]] และสโมสรสุดท้ายที่เขาลงเล่นคือ[[สโมสรฟุตบอลแบล็กเบิร์นโรเวอส์|แบล็กเบิร์นโรเวอส์]] ก่อนที่เขาจะเลิกเล่นอย่างเป็นทางการในปี 2002


== เส้นทางค้าแข้ง ==
== เส้นทางค้าแข้ง ==
=== แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ===
=== แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด ===
ฮิวจ์ส ได้เข้าร่วมทีม[[สโมสรฟุตบอลแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด|แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด]] หลังออกจากโรงเรียนในปี 1980 แต่ยังไม่ได้ลงเล่นในทีมชุดแรกเหมือนผู้เล่นคนอื่น จากนั้นเมื่อเขาได้รับโอกาสให้ลงสนามนัดแรกเขาก็ยิงประตูได้ทันทีและก้าวขึ้นสู่ทีมชุดใหญ่อย่างเต็มตัว และเขายังเป็นผู้เล่นคนสำคัญในนัดชิงชนะเลิศ[[เอฟเอคัพ]]ปี 1985 ที่ทีมของเขาเอาชนะ[[สโมสรฟุตบอลเอฟเวอร์ตัน|เอฟเวอร์ตัน]]ได้ 1-0 และคว้าแชมป์ในที่สุด
ฮิวส์ ได้เข้าร่วมทีม[[สโมสรฟุตบอลแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด|แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด]] หลังออกจากโรงเรียนในปี 1980 แต่ยังไม่ได้ลงเล่นในทีมชุดแรกเหมือนผู้เล่นคนอื่น จากนั้นเมื่อเขาได้รับโอกาสให้ลงสนามนัดแรกเขาก็ยิงประตูได้ทันทีและก้าวขึ้นสู่ทีมชุดใหญ่อย่างเต็มตัว และเขายังเป็นผู้เล่นคนสำคัญในนัดชิงชนะเลิศ[[เอฟเอคัพ]]ปี 1985 ที่ทีมของเขาเอาชนะ[[สโมสรฟุตบอลเอฟเวอร์ตัน|เอฟเวอร์ตัน]]ได้ 1-0 และคว้าแชมป์ในที่สุด


=== บาร์เซโลนาและไบเอิร์นมิวนิก ===
=== บาร์เซโลน่าและบาเยิร์น มิวนิค ===
ปี 1986 ฮิวจ์สย้ายทีมอย่างเป็นที่ตื่นตะลึงเมื่อ[[เทอร์รี่ เวนาเบิลส์]]ผู้จัดการทีมของ[[สโมสรฟุตบอลบาร์เซโลน่า|บาร์เซโลน่า]]ในเวลานั้น จ่ายเงินถึง 2ล้านปอนด์ เพื่อคว้าตัวเขามาร่วมทีมพร้อมกับความหวังที่จะให้เขาเป็นคู่หูชั้นยอดของ[[แกรี่ ลินิเกอร์]]กองหน้าของทีม แต่ฮิวจ์สต้องพบกับความผิดหวังเมื่อไม่อาจงัดฟอร์มเก่งออกมาได้และอยู่กับทีมเพียงหนึ่งฤดูกาลจึงย้ายไปร่วมทีม[[สโมสรฟุตบอลบาเยิร์น มิวนิค|บาเยิร์น มิวนิค]]ในประเทศ[[เยอรมันตะวันตก]]ด้วยสัญญายืมตัว ในฤดูกาล1987-1988
ปี 1986 ฮิวส์ย้ายทีมอย่างเป็นที่ตื่นตะลึงเมื่อ[[เทอร์รี่ เวนาเบิลส์]]ผู้จัดการทีมของ[[สโมสรฟุตบอลบาร์เซโลนา|บาร์เซโลนา]]ในเวลานั้น จ่ายเงินถึง 2ล้านปอนด์ เพื่อคว้าตัวเขามาร่วมทีมพร้อมกับความหวังที่จะให้เขาเป็นคู่หูชั้นยอดของ[[แกรี่ ลินิเกอร์]]กองหน้าของทีม แต่ฮิวส์ต้องพบกับความผิดหวังเมื่อไม่อาจงัดฟอร์มเก่งออกมาได้และอยู่กับทีมเพียงหนึ่งฤดูกาลจึงย้ายไปร่วมทีม[[สโมสรฟุตบอลไบเอิร์นมิวนิก|ไบเอิร์นมิวนิก]]ในประเทศ[[เยอรมันตะวันตก]]ด้วยสัญญายืมตัว ในฤดูกาล1987-1988


=== กลับมาแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดอีกครั้ง ===
=== กลับมาแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดอีกครั้ง ===
ในเดือนพฤษภาคม ปี1988 ฮิวจ์สกลับมาร่วมทีม[[สโมสรฟุตบอลแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด|แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด]]อีกครั้งภายใต้การคุมทีมของ [[เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน]]ผู้จัดการทีมคนใหม่ ด้วยค่าตัว 1ล้าน8แสนปอนด์ และการกลับมายัง[[โอลด์แทรฟฟอร์ด|โอลด์ แทรฟฟอร์ด]]หนนี้เขาทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม และกลายเป็นดาวยิงคนสำคัญของทีม
ในเดือนพฤษภาคม ปี1988 ฮิวส์กลับมาร่วมทีม[[สโมสรฟุตบอลแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด|แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด]]อีกครั้งภายใต้การคุมทีมของ [[เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน]]ผู้จัดการทีมคนใหม่ ด้วยค่าตัว 1ล้าน8แสนปอนด์ และการกลับมายัง[[โอลด์แทรฟฟอร์ด|โอลด์ แทรฟฟอร์ด]]หนนี้เขาทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม และกลายเป็นดาวยิงคนสำคัญของทีม


เขาได้รับเลือกให้เป็น[[นักฟุตบอลยอดเยี่ยมของพีเอฟเอ]] ในฤดูกาล 1988-1989 ซึ่งเป็นปีแรกที่เขากลับมาอังกฤษอีกครั้ง แต่สโมสรยังมีผลงานไม่ดีนักเมื่อจบฤดูกาลด้วยอันดับที่ 11 ปีต่อมาเขายิงคนเดียว2ประตู ใส่คริสตัล พาเลซใน[[เอฟเอคัพ]]นัดชิงชนะเลิศซึ่งเสมอกันไป3-3 ก่อนที่[[ลี มาร์ติน]]จะยิงประตูชัยในนัดแข่งใหม่ ส่งผลให้[[สโมสรฟุตบอลแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด|แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด]]คว้าแชมป์ได้เป็นครั้งแรกในรอบ5ปี และในฤดูกาล1990-1991เขายิงประตูใส่[[สโมสรฟุตบอลบาร์เซโลน่า|บาร์เซโลน่า]]ทีมเก่าของเขาส่งผลให้ทีมได้แชมป์[[ยูฟ่า คัพ วินเนอร์สคัพ]] และเขายังพาทีม[[สโมสรฟุตบอลแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด|แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด]]เข้าถึงรอบชิงชนะเลิศ[[ลีกคัพ]] แต่ทีมกลับพลิกล๊อคพลาดท่าให้กับ[[สโมสรฟุตบอลเชฟฟิลด์ เว้นส์เดย์|เชฟฟิลด์ เว้นส์เดย์]]ในนัดชิงชนะเลิศ 1-0
เขาได้รับเลือกให้เป็น[[นักฟุตบอลยอดเยี่ยมของพีเอฟเอ]] ในฤดูกาล 1988-1989 ซึ่งเป็นปีแรกที่เขากลับมาอังกฤษอีกครั้ง แต่สโมสรยังมีผลงานไม่ดีนักเมื่อจบฤดูกาลด้วยอันดับที่ 11 ปีต่อมาเขายิงคนเดียว2ประตู ใส่คริสตัล พาเลซใน[[เอฟเอคัพ]]นัดชิงชนะเลิศซึ่งเสมอกันไป3-3 ก่อนที่[[ลี มาร์ติน]]จะยิงประตูชัยในนัดแข่งใหม่ ส่งผลให้[[สโมสรฟุตบอลแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด|แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด]]คว้าแชมป์ได้เป็นครั้งแรกในรอบ5ปี และในฤดูกาล1990-1991เขายิงประตูใส่[[สโมสรฟุตบอลบาร์เซโลนา|บาร์เซโลนา]]ทีมเก่าของเขาส่งผลให้ทีมได้แชมป์[[ยูฟ่า คัพ วินเนอร์สคัพ]] และเขายังพาทีม[[สโมสรฟุตบอลแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด|แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด]]เข้าถึงรอบชิงชนะเลิศ[[ลีกคัพ]] แต่ทีมกลับพลิกล๊อคพลาดท่าให้กับ[[สโมสรฟุตบอลเชฟฟิลด์ เว้นส์เดย์|เชฟฟิลด์ เว้นส์เดย์]]ในนัดชิงชนะเลิศ 1-0


ฤดูกาล1991-1992 ฮิวจ์สต้องพลาดเหรียญแชมป์ลีกสูงสุดอย่างน่าเสียดายเมื่อลีดส์ ยูไนเต็ดเข้าป้ายอันดับที่1เมื่อจบฤดูกาล แต่ทีมของเขาก็ยังคว้าแชมป์[[ลีกคัพ]]มาครองได้สำเร็จเป็นรางวัลปลอบใจเมื่อสามารถเอาชนะน็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ได้ในนัดชิงชนะเลิศ 1-0 จากประตูชัยของไบรอัน แม็คแคลร์
ฤดูกาล1991-1992 ฮิวส์ต้องพลาดเหรียญแชมป์ลีกสูงสุดอย่างน่าเสียดายเมื่อลีดส์ ยูไนเต็ดเข้าป้ายอันดับที่1เมื่อจบฤดูกาล แต่ทีมของเขาก็ยังคว้าแชมป์[[ลีกคัพ]]มาครองได้สำเร็จเป็นรางวัลปลอบใจเมื่อสามารถเอาชนะน็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ได้ในนัดชิงชนะเลิศ 1-0 จากประตูชัยของไบรอัน แม็คแคลร์
[[ไฟล์:Mkmutd.jpg|185 px|left|thumb|มาร์ค ฮิวจ์สในยุครุ่งเรืองกับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด]]
ในที่สุดฤดูกาล1992-1993 เขาก็คว้าแชมป์[[พรีเมียร์ลีก]]กับสโมสรได้เป็นครั้งแรก และในปี 1993-1994เขาก็ยังเป็นกำลังสำคัญที่ช่วยให้[[สโมสรฟุตบอลแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด|แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด]]คว้าดับเบิ้ลแชมป์โดยทีมสามารถป้องกันแชมป์ลีกและยังคว้าแชมป์[[เอฟเอคัพ]] โดยในถ้วยเอฟเอคัพฮิวจ์สเป็นหนึ่งในนักเตะที่ยิงประตูในนัดชิงชนะเลิศที่ชนะ[[สโมสรฟุตบอลเชลซี|เชลซี]] 4-0


ฤดูกาล1994-1995 ทีมทำท่าว่าจะสร้างผลงานอันสุดยอดเมื่อมีลุ้นคว้าดับเบิ้ลแชมป์อีกสมัย โดยในลีกทีมต้องแย่งแชมป์กับแบล็คเบิร์น โรเวอร์สและยังสามารถเข้าถึงรอบชิงชนะเลิศในถ้วย[[เอฟเอคัพ]]ได้สำเร็จ แต่ทีมกลับต้องพบกับความผิดหวังเมื่อในนัดสุดท้ายของ[[พรีเมียร์ลีก]]ทำได้เพียงแค่เสมอกับเวสต์แฮม ยูไนเต็ด 1-1 ทำให้แบล็คเบิร์น โรเวอร์สคว้าแชมป์ลีกไปครองโดยมีคะแนนมากกว่า[[สโมสรฟุตบอลแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด|แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด]]เพียงแค่แต้มเดียวเท่านั้น ส่วนใน[[เอฟเอคัพ]]ทีมต้องชิงแชมป์กับ[[สโมสรฟุตบอลเอฟเวอร์ตัน|เอฟเวอร์ตัน]] แต่ก็ต้องผิดหวังซ้ำสองเมื่อ พอล ไรด์เอาท์นักเตะทีมเอฟเวอร์ตันยิงประตูชัยพาเอฟเวอร์ตันคว้าแชมป์ในที่สุด และฤดูกาลนั้นเป็นปีสุดท้ายของเขาใน[[โอลด์แทรฟฟอร์ด|โอลด์ แทรฟฟอร์ด]]
ในที่สุดฤดูกาล1992-1993 เขาก็คว้าแชมป์[[พรีเมียร์ลีก]]กับสโมสรได้เป็นครั้งแรก และในปี 1993-1994เขาก็ยังเป็นกำลังสำคัญที่ช่วยให้[[สโมสรฟุตบอลแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด|แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด]]คว้าดับเบิ้ลแชมป์โดยทีมสามารถป้องกันแชมป์ลีกและยังคว้าแชมป์[[เอฟเอคัพ]] โดยในถ้วยเอฟเอคัพฮิวส์เป็นหนึ่งในนักเตะที่ยิงประตูในนัดชิงชนะเลิศที่ชนะ[[สโมสรฟุตบอลเชลซี|เชลซี]] 4-0
ฤดูกาล1994-1995 ทีมทำท่าว่าจะสร้างผลงานอันสุดยอดเมื่อมีลุ้นคว้าดับเบิ้ลแชมป์อีกสมัย โดยในลีกทีมต้องแย่งแชมป์กับแบล็กเบิร์นโรเวอส์และยังสามารถเข้าถึงรอบชิงชนะเลิศในถ้วย[[เอฟเอคัพ]]ได้สำเร็จ แต่ทีมกลับต้องพบกับความผิดหวังเมื่อในนัดสุดท้ายของ[[พรีเมียร์ลีก]]ทำได้เพียงแค่เสมอกับเวสต์แฮม ยูไนเต็ด 1-1 ทำให้แบล็กเบิร์นโรเวอส์คว้าแชมป์ลีกไปครองโดยมีคะแนนมากกว่า[[สโมสรฟุตบอลแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด|แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด]]เพียงแค่แต้มเดียวเท่านั้น ส่วนใน[[เอฟเอคัพ]]ทีมต้องชิงแชมป์กับ[[สโมสรฟุตบอลเอฟเวอร์ตัน|เอฟเวอร์ตัน]] แต่ก็ต้องผิดหวังซ้ำสองเมื่อ พอล ไรด์เอาท์นักเตะทีมเอฟเวอร์ตันยิงประตูชัยพาเอฟเวอร์ตันคว้าแชมป์ในที่สุด และฤดูกาลนั้นเป็นปีสุดท้ายของเขาใน[[โอลด์แทรฟฟอร์ด|โอลด์ แทรฟฟอร์ด]]


=== เชลซี ===
=== เชลซี ===
การมาถึงของ[[แอนดี้ โคล]]ทำให้เขาต้องพบกับความยากลำบากในการเป็นผู้เล่นตัวจริง เขาจึงตัดสินใจย้ายทีมไปเล่นให้กับ[[สโมสรฟุตบอลเชลซี|เชลซี]]ด้วยค่าตัว1ล้าน8แสนปอนด์ โดยเขาย้ายออกจากแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดในเวลาเดียวกับพอล อินซ์และอังเดร แคนเชสกี้ซึ่งย้ายออกไปร่วมทีมอินเตอร์ มิลานและเอฟเวอร์ตัน อย่างไรก็ดีการขายผู้เล่นคนสำคัญในทีมออกถึง3ราย กลับไม่ส่งผลต่อกระทบแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดมากนักเมื่อทีมคว้าดับเบิ้ลแชมป์ได้อีกสมัยในฤดูกาล1995-1996
การมาถึงของ[[แอนดี โคล]]ทำให้เขาต้องพบกับความยากลำบากในการเป็นผู้เล่นตัวจริง เขาจึงตัดสินใจย้ายทีมไปเล่นให้กับ[[สโมสรฟุตบอลเชลซี|เชลซี]]ด้วยค่าตัว1ล้าน8แสนปอนด์ โดยเขาย้ายออกจากแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดในเวลาเดียวกับพอล อินซ์และอังเดร แคนเชสกี้ซึ่งย้ายออกไปร่วมทีมอินเตอร์ มิลานและเอฟเวอร์ตัน อย่างไรก็ดีการขายผู้เล่นคนสำคัญในทีมออกถึง3ราย กลับไม่ส่งผลต่อกระทบแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดมากนักเมื่อทีมคว้าดับเบิ้ลแชมป์ได้อีกสมัยในฤดูกาล1995-1996


มาร์ค ฮิวจ์สเป็นหนึ่งในผู้เล่นตัวหลักของ[[สโมสรฟุตบอลเชลซี|เชลซี]]โดยคู่หูในแดนหน้าของเขาคือ[[จิอันฟรังโก้ โซล่า]] ในฤดูกาล1996-1997 เขาสามารถคว้าแชมป์[[เอฟเอคัพ]]ร่วมกับทีมได้สำเร็จเมื่อเอาชนะ[[สโมสรฟุตบอลมิดเดิลสโบรช์|มิดเดิลสโบรช์]]2-0 ในนัดชิงชนะเลิศ
มาร์ก ฮิวส์เป็นหนึ่งในผู้เล่นตัวหลักของ[[สโมสรฟุตบอลเชลซี|เชลซี]]โดยคู่หูในแดนหน้าของเขาคือ[[จิอันฟรังโก้ โซล่า]] ในฤดูกาล1996-1997 เขาสามารถคว้าแชมป์[[เอฟเอคัพ]]ร่วมกับทีมได้สำเร็จเมื่อเอาชนะ[[สโมสรฟุตบอลมิดเดิลสโบรช์|มิดเดิลสโบรช์]]2-0 ในนัดชิงชนะเลิศ


ฤดูกาล1997-1998เป็นปีสุดท้ายของเขาและเชลซี ซึ่งเขาสามารถคว้าแชมป์[[ยูฟ่า คัพ วินเนอร์สคัพ]]ได้อีกสมัยโดยเอาชนะสตุ๊ทการ์ทได้1-0ในรอบชิงชนะเลิศ
ฤดูกาล1997-1998เป็นปีสุดท้ายของเขาและเชลซี ซึ่งเขาสามารถคว้าแชมป์[[ยูฟ่า คัพ วินเนอร์สคัพ]]ได้อีกสมัยโดยเอาชนะสตุ๊ทการ์ทได้1-0ในรอบชิงชนะเลิศ


=== เซาแทมป์ตัน ===
=== เซาท์แฮมป์ตัน ===
ฤดูกาล1998-1999 มาร์ค ฮิวจ์สย้ายมาร่วมทีมเซาท์แฮมป์ตันด้วยค่าตัว 6แสน5หมื่นปอนด์ภายใต้การคุมทีมของเดฟ โจนส์ ด้วยวัยที่มากขึ้นทำให้เขายิงประตูไม่มากเหมือนเมื่อก่อนจึงปรับเปลี่ยนไปเล่นตำแหน่ง[[กองกลาง]] ประสบการณ์ของเขายังช่วยทีมได้มากสำหรับการต่อสู้ใน[[พรีเมียร์ลีก]] 2ประตูที่เขาทำได้เกิดขึ้นในเกมส์พบแบล็คเบิร์น โรเวอร์สซึ่งเป็นทีมที่เขาย้ายไปเล่นให้ในเวลาต่อมา และเกมส์พบนิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ดในวันที่ 15 สิงหาคม 1999 ซึ่งเป็นลูกวอลเล่ย์สุดสวยที่อยู่ในความทรงจำของแฟนบอลหลายคน โดยในฤดูกาล 1998-1999 ฤดูกาลแรกของเขากับทีมเขาได้รับใบเหลืองถึง14 ใบ ซึ่งมากที่สุดในพรีเมียร์ลีก ในเดือนสิงหาคม ปี1999เขาได้รับแต่งตั้งให้เป็นผู้จัดการ[[ฟุตบอลทีมชาติเวลส์|ทีมชาติเวลส์]]ในขณะที่ยังไม่ได้แขวนสตั๊ด
ฤดูกาล1998-1999 มาร์ก ฮิวส์ย้ายมาร่วมทีมเซาแทมป์ตันด้วยค่าตัว 6แสน5หมื่นปอนด์ภายใต้การคุมทีมของเดฟ โจนส์ ด้วยวัยที่มากขึ้นทำให้เขายิงประตูไม่มากเหมือนเมื่อก่อนจึงปรับเปลี่ยนไปเล่นตำแหน่ง[[กองกลาง]] ประสบการณ์ของเขายังช่วยทีมได้มากสำหรับการต่อสู้ใน[[พรีเมียร์ลีก]] 2ประตูที่เขาทำได้เกิดขึ้นในเกมส์พบแบล็กเบิร์นโรเวอส์ซึ่งเป็นทีมที่เขาย้ายไปเล่นให้ในเวลาต่อมา และเกมส์พบนิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ดในวันที่ 15 สิงหาคม 1999 ซึ่งเป็นลูกวอลเล่ย์สุดสวยที่อยู่ในความทรงจำของแฟนบอลหลายคน โดยในฤดูกาล 1998-1999 ฤดูกาลแรกของเขากับทีมเขาได้รับใบเหลืองถึง14 ใบ ซึ่งมากที่สุดในพรีเมียร์ลีก ในเดือนสิงหาคม ปี1999เขาได้รับแต่งตั้งให้เป็นผู้จัดการ[[ฟุตบอลทีมชาติเวลส์|ทีมชาติเวลส์]]ในขณะที่ยังไม่ได้แขวนสตั๊ด


=== เอฟเวอร์ตันและแบล็คเบิร์น โรเวอร์ส ===
=== เอฟเวอร์ตันและแบล็กเบิร์นโรเวอส์ ===
⚫
เมื่อ[[เกล็น ฮ็อดเดิ้ล]]กลายเป็นผู้จัดการทีมคนใหม่ของเซาแทมป์ตัน มาร์ก ฮิวส์ในวัย36ปี ก็กลายเป็นนักเตะที่ไม่ได้อยู่ในแผนการทำทีม เขาจึงย้ายไปร่วมทีม[[สโมสรฟุตบอลเอฟเวอร์ตัน|เอฟเวอร์ตัน]]และมีบทบาทในฐานะผู้เล่นน้อยลงตามวัย แต่ยังคงทำหน้าที่เป็นผู้จัดการ[[ฟุตบอลทีมชาติเวลส์|ทีมชาติเวลส์]]ต่อไป และเขาตัดสินใจย้ายมาเล่นในลีกระดับล่างเป็นครั้งแรกในฤดูกาล 2000-2001
[[ไฟล์:mkevert.jpg|250 px|right|thumb|ช่วงปลายชีวิตค้าแข้งกับเอฟเวอร์ตัน]]
⚫
เมื่อ[[เกล็น ฮ็อดเดิ้ล]]กลายเป็นผู้จัดการทีมคนใหม่ของเซาท์แฮมป์ตัน มาร์ค ฮิวจ์สในวัย36ปี ก็กลายเป็นนักเตะที่ไม่ได้อยู่ในแผนการทำทีม เขาจึงย้ายไปร่วมทีม[[สโมสรฟุตบอลเอฟเวอร์ตัน|เอฟเวอร์ตัน]]และมีบทบาทในฐานะผู้เล่นน้อยลงตามวัย แต่ยังคงทำหน้าที่เป็นผู้จัดการ[[ฟุตบอลทีมชาติเวลส์|ทีมชาติเวลส์]]ต่อไป และเขาตัดสินใจย้ายมาเล่นในลีกระดับล่างเป็นครั้งแรกในฤดูกาล 2000-2001


เขากลายมาเป็นผู้เล่นคนสำคัญของแบล็คเบิร์น โรเวอร์สและสามารถพาทีมคว้ารองแชมป์ดิวิชั่น1 (ปัจจุบันคือลีกแชมเปียนชิพ) พร้อมกับเลื่อนชั้นขึ้นมาเล่นใน[[พรีเมียร์ลีก]]ได้สำเร็จหลังจบฤดูกาล2000-2001
เขากลายมาเป็นผู้เล่นคนสำคัญของแบล็กเบิร์นโรเวอส์และสามารถพาทีมคว้ารองแชมป์ดิวิชั่น1 (ปัจจุบันคือลีกแชมเปียนชิพ) พร้อมกับเลื่อนชั้นขึ้นมาเล่นใน[[พรีเมียร์ลีก]]ได้สำเร็จหลังจบฤดูกาล2000-2001


ฤดูกาล2001-2002แบล็คเบิร์น โรเวอร์สสามารถคว้าแชมป์ลีกคัพได้สำเร็จและนั่นเป็นการชูถ้วยแชมป์ครั้งสุดท้ายของเขาก่อนที่จะประกาศเลิกเล่นในเดือนกรกฎาคม ปี 2002ก่อนอายุครบ39ปีเพียงไม่กี่เดือน
ฤดูกาล2001-2002แบล็กเบิร์นโรเวอส์สามารถคว้าแชมป์ลีกคัพได้สำเร็จและนั่นเป็นการชูถ้วยแชมป์ครั้งสุดท้ายของเขาก่อนที่จะประกาศเลิกเล่นในเดือนกรกฎาคม ปี 2002ก่อนอายุครบ39ปีเพียงไม่กี่เดือน


== อาชีพผู้จัดการทีม ==
== อาชีพผู้จัดการทีม ==
=== [[ฟุตบอลทีมชาติเวลส์|ทีมชาติเวลส์]] ===
=== [[ฟุตบอลทีมชาติเวลส์|ทีมชาติเวลส์]] ===
มาร์ค ฮิวจ์สรับตำแหน่งผู้จัดการ[[ฟุตบอลทีมชาติเวลส์|ทีมชาติเวลส์]]ในปี 1999 ในขณะเป็นผู้เล่นของเซาท์แฮมป์ตัน โดยเขารับงานต่อจากบ็อบบี้ กูลด์ และทำผลงานได้อย่างดีจนได้รับสัญญาระยะยาว ในช่วงเวลา5ปีของเขาในตำแหน่งผู้จัดการทีมชาติ เขาเกือบพาทีมผ่านเข้าไปเล่นในศึก[[ฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป]]ปี 2004 แต่ก็ต้องผิดหวังเมื่อทีมแพ้ต่อ[[ฟุตบอลทีมชาติรัสเซีย|ทีมชาติรัสเซีย]]ในรอบเพลย์ออฟ
มาร์ก ฮิวส์รับตำแหน่งผู้จัดการ[[ฟุตบอลทีมชาติเวลส์|ทีมชาติเวลส์]]ในปี 1999 ในขณะเป็นผู้เล่นของเซาแทมป์ตัน โดยเขารับงานต่อจากบ็อบบี้ กูลด์ และทำผลงานได้อย่างดีจนได้รับสัญญาระยะยาว ในช่วงเวลา5ปีของเขาในตำแหน่งผู้จัดการทีมชาติ เขาเกือบพาทีมผ่านเข้าไปเล่นในศึก[[ฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป]]ปี 2004 แต่ก็ต้องผิดหวังเมื่อทีมแพ้ต่อ[[ฟุตบอลทีมชาติรัสเซีย|ทีมชาติรัสเซีย]]ในรอบเพลย์ออฟ


=== แบล็คเบิร์น โรเวอร์ส ===
=== แบล็กเบิร์นโรเวอส์ ===
แม้จะทำผลงานได้ดีกับ[[ฟุตบอลทีมชาติเวลส์|ทีมชาติเวลส์]] แต่ฮิวจ์สก็ลาออกจากตำแหน่งผู้จัดการทีมชาติในเดือนกันยายน ปี 2004 เพื่อไปรับงานคุมทีมแบล็คเบิร์น โรเวอร์สทีมเก่าของเขาใน[[พรีเมียร์ลีก]]อย่างเต็มตัวหลังจากเขานั่งควบ2ตำแหน่งทั้งผู้จัดการทีมชาติเวลส์และผู้จัดการชั่วคราวของแบล้คเบิร์น โรเวอร์สในปลายฤดูกาล2003-2004 ผลงานของเขาในปีนั้นคือการพาทีมรอดจากการตกชั้น และนำสโมสรเข้าถึงรอบ4ทีมสุดท้ายใน[[เอฟเอคัพ]]ได้เป็นครั้งแรกในรอบ40ปี
แม้จะทำผลงานได้ดีกับ[[ฟุตบอลทีมชาติเวลส์|ทีมชาติเวลส์]] แต่ฮิวส์ก็ลาออกจากตำแหน่งผู้จัดการทีมชาติในเดือนกันยายน ปี 2004 เพื่อไปรับงานคุมทีมแบล็กเบิร์นโรเวอส์ทีมเก่าของเขาใน[[พรีเมียร์ลีก]]อย่างเต็มตัวหลังจากเขานั่งควบ2ตำแหน่งทั้งผู้จัดการทีมชาติเวลส์และผู้จัดการชั่วคราวของแบล้คเบิร์น โรเวอร์สในปลายฤดูกาล2003-2004 ผลงานของเขาในปีนั้นคือการพาทีมรอดจากการตกชั้น และนำสโมสรเข้าถึงรอบ4ทีมสุดท้ายใน[[เอฟเอคัพ]]ได้เป็นครั้งแรกในรอบ40ปี


ฤดูกาล2004-2005 ปีที่2ของเขากับทีมฮิวจ์สนำแบล็คเบิร์นจบฤดูกาลด้วยอันดับ6อย่างเหลือเชื่อ และได้ไปเล่น[[ยูฟ่า คัพ]]เมื่อจบฤดูกาล โดยในลีกทีมของเขาสามารถเอาชนะ[[สโมสรฟุตบอลเชลซี|เชลซี]], และชนะ[[สโมสรฟุตบอลแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด|แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด]]ทั้งนัดเหย้าและนัดเยือน รวมทั้งยังสมารถเอาชนะ[[สโมสรฟุตบอลอาร์เซนอล|อาร์เซน่อล]]ได้สำเร็จ และทีมของเขายังเข้าไปชิงชนะเลิศถ้วยลีกคัพก่อนจะแพ้เชลซีไป1-0ทำให้ได้แค่รองแชมป์
ฤดูกาล2004-2005 ปีที่2ของเขากับทีมฮิวส์นำแบล็กเบิร์นจบฤดูกาลด้วยอันดับ6อย่างเหลือเชื่อ และได้ไปเล่น[[ยูฟ่า คัพ]]เมื่อจบฤดูกาล โดยในลีกทีมของเขาสามารถเอาชนะ[[สโมสรฟุตบอลเชลซี|เชลซี]], และชนะ[[สโมสรฟุตบอลแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด|แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด]]ทั้งนัดเหย้าและนัดเยือน รวมทั้งยังสมารถเอาชนะ[[สโมสรฟุตบอลอาร์เซนอล|อาร์เซนอล]]ได้สำเร็จ และทีมของเขายังเข้าไปชิงชนะเลิศถ้วยลีกคัพก่อนจะแพ้เชลซีไป1-0ทำให้ได้แค่รองแชมป์


วันที่ 4 พฤษภาคม ปี2006 จากผลงานอันยอดเยี่ยม ฮิวจ์สและผู้ช่วยของเขามาร์ค โบเวนได้รับการต่อสัญญาต่อไปอีก3ปี สัญญาฉบับนี้จะทำให้เขาอยู่กับทีมจนถึงช่วงฤดูร้อนของปี 2009
วันที่ 4 พฤษภาคม ปี2006 จากผลงานอันยอดเยี่ยม ฮิวส์และผู้ช่วยของเขามาร์ก โบเวนได้รับการต่อสัญญาต่อไปอีก3ปี สัญญาฉบับนี้จะทำให้เขาอยู่กับทีมจนถึงช่วงฤดูร้อนของปี 2009


การสร้างทีมของเขาในอีวู้ด ปาร์คนั้นเขาได้ซื้อตัวผู้เล่นคนสำคัญของทีมเช่นเบนนี่ แม็คคาร์ธี่ย์ (2ล้านปอนด์),เดวิด เบนท์ลี่ย์ (5แสนปอนด์),ไรอัน เนลเซ่น (ฟรี) รวมถึงการได้ยอดกองหน้าอย่างโรเก้ ซาน ตา ครูซ (3ล้าน5แสนปอนด์) และกองหลังจอมโหดอย่าง คริสโตเฟอร์ แซมบ้า (4แสนปอนด์) แบล็คเบิร์นจบฤดูกาลด้วยอันดับ10 ในฤดูกาล2006-2007 และผ่านเข้าถึงรอบน็อคเอาท์ในศึก[[ยูฟ่าคัพ]] ก่อนจะแพ้ไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่นด้วยประตูรวม3-2 ส่วนใน[[เอฟเอคัพ]]เขาพาทีมเข้าถึงรอบรองชนะเลิศได้อีกครั้งและเป็นครั้งที่3ของทีม นับแต่ฮิวจ์สเข้ารับตำแหน่ง และฤดูกาลนั้นเขาได้รับเลือกให้เป็นผู้จัดการทีมยอดเยี่ยมประจำเดือนตุลาคม
การสร้างทีมของเขาในอีวู้ด ปาร์คนั้นเขาได้ซื้อตัวผู้เล่นคนสำคัญของทีมเช่นเบนนี่ แม็คคาร์ธี่ย์ (2ล้านปอนด์),เดวิด เบนท์ลี่ย์ (5แสนปอนด์),ไรอัน เนลเซ่น (ฟรี) รวมถึงการได้ยอดกองหน้าอย่างโรเก้ ซาน ตา ครูซ (3ล้าน5แสนปอนด์) และกองหลังจอมโหดอย่าง คริสโตเฟอร์ แซมบ้า (4แสนปอนด์) แบล็กเบิร์นจบฤดูกาลด้วยอันดับ10 ในฤดูกาล2006-2007 และผ่านเข้าถึงรอบน็อคเอาท์ในศึก[[ยูฟ่าคัพ]] ก่อนจะแพ้ไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่นด้วยประตูรวม3-2 ส่วนใน[[เอฟเอคัพ]]เขาพาทีมเข้าถึงรอบรองชนะเลิศได้อีกครั้งและเป็นครั้งที่3ของทีม นับแต่ฮิวส์เข้ารับตำแหน่ง และฤดูกาลนั้นเขาได้รับเลือกให้เป็นผู้จัดการทีมยอดเยี่ยมประจำเดือนตุลาคม


ฤดูกาล2007-2008 ฮิวจ์สพาทีมเก็บชัยชนะได้ถึง15นัด และจบฤดูกาลด้วยอันดับ7 โดยโรเก้ ซาน ตา ครูซกองหน้าที่เขาซื้อมายิงประตูในลีกได้ถึง19ประตูในฤดูกาลแรกที่มาร่วมทีม
ฤดูกาล2007-2008 ฮิวส์พาทีมเก็บชัยชนะได้ถึง15นัด และจบฤดูกาลด้วยอันดับ7 โดยโรเก้ ซาน ตา ครูซกองหน้าที่เขาซื้อมายิงประตูในลีกได้ถึง19ประตูในฤดูกาลแรกที่มาร่วมทีม


=== แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ===
=== แมนเชสเตอร์ซิตี ===
หลังจบฤดูกาล2007-2008 [[พ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร]]ประธานสโมสร[[สโมสรฟุตบอลแมนเชสเตอร์ซิตี|แมนเชสเตอร์ ซิตี้]]ในขณะนั้นสั่งปลด สเวน โกรัน อิริคสัน ออกจากตำแหน่งผู้จัดการทีมและแต่งตั้งมาร์ค ฮิวจ์สเป็นผู้จัดการทีมคนใหม่ในเดือนมิถุนายน ปี2008 ด้วยสัญญา3ปี
หลังจบฤดูกาล2007-2008 [[พ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร]]ประธานสโมสร[[สโมสรฟุตบอลแมนเชสเตอร์ซิตี|แมนเชสเตอร์ซิตี]]ในขณะนั้นสั่งปลด สเวน โกรัน อิริคสัน ออกจากตำแหน่งผู้จัดการทีมและแต่งตั้งมาร์ก ฮิวส์เป็นผู้จัดการทีมคนใหม่ในเดือนมิถุนายน ปี2008 ด้วยสัญญา3ปี


เดือนกันยายน ปี 2008 เกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในสโมสรเมื่อ [[สโมสรฟุตบอลแมนเชสเตอร์ซิตี|แมนเชสเตอร์ ซิตี้]]ถูกเทคโอเวอร์โดยกลุ่มADUG (Abu Dhabi United investment group) ซึ่งเป็นกลุ่มมหาเศรษฐีอาหรับ โดยมีการประเมินว่ามีทรัพย์สินมากกว่า[[โรมัน อับราโมวิช]]เจ้าของสโมสรเชลซีอยู่หลายเท่า และนั่นทำให้มาร์ค ฮิวจ์สมีเงินมหาศาลในการซื้อตัวนักเตะระดับโลกเข้าสู่สโมสร โดยการซื้อตัวผู้เล่นที่สั่นสะเทือนเกาะอังกฤษครั้งใหญ่ที่สุดคือการที่เขาซื้อตัว[[โรบินโญ่]]ดาวเตะบราซิลมาจาก[[สโมสรฟุตบอลรีล มาดริด|รีล มาดริด]]ด้วยค่าตัวมากที่สุดในประเทศที่32ล้าน4แสนปอนด์
เดือนกันยายน ปี 2008 เกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในสโมสรเมื่อ [[สโมสรฟุตบอลแมนเชสเตอร์ซิตี|แมนเชสเตอร์ซิตี]]ถูกเทคโอเวอร์โดยกลุ่มADUG (Abu Dhabi United investment group) ซึ่งเป็นกลุ่มมหาเศรษฐีอาหรับ โดยมีการประเมินว่ามีทรัพย์สินมากกว่า[[โรมัน อับราโมวิช]]เจ้าของสโมสรเชลซีอยู่หลายเท่า และนั่นทำให้มาร์ก ฮิวส์มีเงินมหาศาลในการซื้อตัวนักเตะระดับโลกเข้าสู่สโมสร โดยการซื้อตัวผู้เล่นที่สั่นสะเทือนเกาะอังกฤษครั้งใหญ่ที่สุดคือการที่เขาซื้อตัว[[โรบินโญ่]]ดาวเตะบราซิลมาจาก[[สโมสรฟุตบอลรีล มาดริด|รีล มาดริด]]ด้วยค่าตัวมากที่สุดในประเทศที่32ล้าน4แสนปอนด์
=== ฟูแลม ===
=== ฟูแลม แชมป์ ยูฟ่าแชมป์เปี้ยนลีก ===
=== ควีนส์พาร์กเรนเจอร์ส ===
=== ควีนส์พาร์กเรนเจอร์ส ===
===สโตกซิตี ===

มาร์ก ฮิวส์ โดนสโมสร สโตกซิตี ประกาศปลดหลังจากทำทีมตกรอบในศึกเอฟเอคัพ เมื่อวันที่ 6 มกราคม 2561 หลังจากแพ้โคเวนทรี ซิตี้ 1-2 <ref>{{cite web|url=http://http://www.smmsport.com/m/news.php?n=209382|title=สโต๊ค ไล่ มาร์ก ฮิวจ์! เซ่นพ่ายทีมลีกทู|publisher=SMMSPORT.com 7 ม.ค. 2561|access-date=2022-04-17|archive-date=2008-10-28|archive-url=https://web.archive.org/web/20081028223523/http://http/|url-status=dead}}</ref> ในขณะที่อันดับในพรีเมียร์ลีกก็อยู่ในเกณฑ์ตกชั้นเช่นกัน
== ผลงาน ==
== ผลงาน ==
=== สมัยเป็นผู้เล่น ===
=== สมัยเป็นผู้เล่น ===
* ได้รับเลือกให้เข้าสู่หอเกียรติยศของนักฟุตบอลอังกฤษ ปี2007
* ได้รับเลือกให้เข้าสู่หอเกียรติยศของนักฟุตบอลอังกฤษ ปี2007
;[[สโมสรฟุตบอลแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด|แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด]]
;[[สโมสรฟุตบอลแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด|แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด]]
* [[พรีเมียร์ลีก]] แชมป์: ฤดูกาล1992-1993 และ1993-1994
* [[พรีเมียร์ลีก]] แชมป์: ฤดูกาล1992-1993 และ1993-1994
* [[พรีเมียร์ลีก]] รองแชมป์: ฤดูกาล1994-1995
* [[พรีเมียร์ลีก]] รองแชมป์: ฤดูกาล1994-1995
บรรทัด 102: บรรทัด 139:
* [[ยูฟ่า คัพ วินเนอร์สคัพ]] ชนะเลิศ: ฤดูกาล 1997-1998
* [[ยูฟ่า คัพ วินเนอร์สคัพ]] ชนะเลิศ: ฤดูกาล 1997-1998
;[[สโมสรฟุตบอลแบล็คเบิร์น โรเวอร์ส|แบล็คเบิร์นโรเวอร์ส]]
;[[สโมสรฟุตบอลแบล็กเบิร์นโรเวอส์|แบล็กเบิร์นโรเวอส์]]
* ดิวิชั่น 1 (ปัจจุบันคือ ลีกแชมเปียนชิพ) รองแชมป์: ฤดูกาล 2000-2001
* ดิวิชั่น 1 (ปัจจุบันคือ ลีกแชมเปียนชิพ) รองแชมป์: ฤดูกาล 2000-2001
* [[ลีกคัพ]] แชมป์: ฤดูกาล 2001-2002
* [[ลีกคัพ]] แชมป์: ฤดูกาล 2001-2002
⚫
{{birth|1963}}{{alive}}


== อ้างอิง ==
{{รายการอ้างอิง}}

{{ผู้จัดการทีมสโมสรฟุตบอลแมนเชสเตอร์ซิตี}}
{{ผู้จัดการทีมสโมสรฟุตบอลเซาแทมป์ตัน}}
{{นักฟุตบอลชาวเวลส์ยอดเยี่ยมแห่งปี}}
⚫
{{birth|1963}}{{alive}}
[[หมวดหมู่:นักฟุตบอลชาวเวลส์]]
[[หมวดหมู่:นักฟุตบอลชาวเวลส์]]
[[หมวดหมู่:สโมสรฟุตบอลแมนเชสเตอร์ซิตี]]
[[หมวดหมู่:ผู้จัดการทีมสโมสรฟุตบอลแมนเชสเตอร์ซิตี]]
[[หมวดหมู่:ผู้จัดการทีมสโมสรฟุตบอลเซาแทมป์ตัน]]
[[หมวดหมู่:ผู้เล่นสโมสรฟุตบอลแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด]]
[[หมวดหมู่:ผู้เล่นสโมสรฟุตบอลแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด]]
[[หมวดหมู่:ผู้จัดการทีมฟุตบอลในพรีเมียร์ลีก]]
[[หมวดหมู่:ผู้จัดการทีมฟุตบอลในพรีเมียร์ลีก]]
[[หมวดหมู่:กองหน้าฟุตบอล]]
[[หมวดหมู่:กองหน้าฟุตบอล]]
[[หมวดหมู่:ผู้ได้รับเครื่องราชอิสริยาภรณ์โอบีอี‎]]
[[หมวดหมู่:ผู้ได้รับเครื่องราชอิสริยาภรณ์โอบีอี‎]]
[[category:ผู้เล่นสโมสรฟุตบอลเซาแทมป์ตัน]]
[[หมวดหมู่:ผู้เล่นสโมสรฟุตบอลเซาแทมป์ตัน]]
[[category:ผู้เล่นสโมสรฟุตบอลเอฟเวอร์ตัน]][[category:ผู้เล่นสโมสรฟุตบอลเชลซี]]
[[หมวดหมู่:ผู้เล่นสโมสรฟุตบอลเอฟเวอร์ตัน]]
[[หมวดหมู่:ผู้เล่นสโมสรฟุตบอลเชลซี]]
[[category:ผู้เล่นสโมสรฟุตบอลบาร์เซโลนา]][[category:ผู้เล่นสโมสรฟุตบอลแบล็กเบิร์นโรเวอส์]]
[[หมวดหมู่:ผู้เล่นสโมสรฟุตบอลบาร์เซโลนา]]
[[หมวดหมู่:ผู้เล่นสโมสรฟุตบอลแบล็กเบิร์นโรเวอส์]]
[[category:ผู้เล่นสโมสรฟุตบอลบาเยิร์นมิวนิก]]
[[หมวดหมู่:ผู้เล่นสโมสรฟุตบอลไบเอิร์นมิวนิก]]
[[หมวดหมู่:บุคคลจากเรกซัม]]

รุ่นแก้ไขปัจจุบันเมื่อ 22:24, 21 พฤษภาคม 2567

มาร์ก ฮิวส์
ข้อมูลส่วนตัว
ชื่อเต็ม เลสลี มาร์ก ฮิวส์
วันเกิด (1963-11-01) 1 พฤศจิกายน ค.ศ. 1963 (60 ปี)
สถานที่เกิด รัวบอน, เร็กซ์แฮม  เวลส์
ส่วนสูง 1.78 m (5 ft 10 in)
ตำแหน่ง กองหน้า
สโมสรอาชีพ*
ปี ทีม ลงเล่น (ประตู)
1980–86 แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด 89 (37)
1986–88 บาร์เซโลนา 28 (4)
1987–88 → ไบเอิร์นมิวนิก (ยืมตัว) 18 (6)
1988–95 แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด 256 (83)
1995–98 เชลซี 95 (25)
1998–2000 เซาแทมป์ตัน 52 (2)
2000 เอฟเวอร์ตัน 18 (1)
2000–02 แบล็กเบิร์นโรเวอส์ 50 (6)
ทีมชาติ
1984–1999 เวลส์ 72 (16)
จัดการทีม
1999–2004 ทีมชาติเวลส์
2004–2008 แบล็กเบิร์นโรเวอส์
2008–2009 แมนเชสเตอร์ซิตี
2010–2011 ฟูลัม
2012 ควีนส์พาร์กเรนเจอส์
2013–2018 สโตกซิตี
2018 เซาแทมป์ตัน
2022– แบรดฟอร์ดซิตี
*นัดที่ลงเล่นและประตูที่ยิงให้แก่สโมสรเฉพาะลีกในประเทศเท่านั้น

เลสลี มาร์ก ฮิวส์ (อังกฤษ: Leslie Mark Hughes) มีชื่อเล่นในวงการฟุตบอลว่า สปาร์กี้ เป็นอดีตนักฟุตบอลทีมชาติเวลส์ ปัจจุบันเป็นผู้จัดการทีมให้กับแบรดฟอร์ดซิตี ในอีเอฟแอลลีกทู

ฮิวส์เคยเป็นผู้จัดการทีมหลายสโมสร ได้แก่ แบล็กเบิร์นโรเวอส์, แมนเชสเตอร์ซิตี, ฟูลัม, ควีนส์พาร์กเรนเจอส์, สโตกซิตี และ เซาแทมป์ตัน ผลงานในการรับใช้ชาติของเขาคือการลงเล่นให้ทีมชาติเวลส์ 72 นัด และยิงประตูได้ 16 ประตู

ในช่วงชีวิตการเป็นนักฟุตบอลของเขานั้นผู้คนจดจำเขาได้เป็นอย่างดีจากการลงเล่นให้แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดทั้ง 2 ช่วง แต่เขากลับไม่ประสบความสำเร็จนักเมื่อต้องออกไปค้าแข้งในต่างแดนกับบาร์เซโลนาในสเปนและไบเอิร์นมิวนิกในเยอรมนีตะวันตก นอกจากนี้ที่อังกฤษเขายังเคยเล่นให้สโมสรเชลซี, เซาแทมป์ตัน, เอฟเวอร์ตัน และสโมสรสุดท้ายที่เขาลงเล่นคือแบล็กเบิร์นโรเวอส์ ก่อนที่เขาจะเลิกเล่นอย่างเป็นทางการในปี 2002

เส้นทางค้าแข้ง[แก้]

แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด[แก้]

ฮิวส์ ได้เข้าร่วมทีมแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด หลังออกจากโรงเรียนในปี 1980 แต่ยังไม่ได้ลงเล่นในทีมชุดแรกเหมือนผู้เล่นคนอื่น จากนั้นเมื่อเขาได้รับโอกาสให้ลงสนามนัดแรกเขาก็ยิงประตูได้ทันทีและก้าวขึ้นสู่ทีมชุดใหญ่อย่างเต็มตัว และเขายังเป็นผู้เล่นคนสำคัญในนัดชิงชนะเลิศเอฟเอคัพปี 1985 ที่ทีมของเขาเอาชนะเอฟเวอร์ตันได้ 1-0 และคว้าแชมป์ในที่สุด

บาร์เซโลนาและไบเอิร์นมิวนิก[แก้]

ปี 1986 ฮิวส์ย้ายทีมอย่างเป็นที่ตื่นตะลึงเมื่อเทอร์รี่ เวนาเบิลส์ผู้จัดการทีมของบาร์เซโลนาในเวลานั้น จ่ายเงินถึง 2ล้านปอนด์ เพื่อคว้าตัวเขามาร่วมทีมพร้อมกับความหวังที่จะให้เขาเป็นคู่หูชั้นยอดของแกรี่ ลินิเกอร์กองหน้าของทีม แต่ฮิวส์ต้องพบกับความผิดหวังเมื่อไม่อาจงัดฟอร์มเก่งออกมาได้และอยู่กับทีมเพียงหนึ่งฤดูกาลจึงย้ายไปร่วมทีมไบเอิร์นมิวนิกในประเทศเยอรมันตะวันตกด้วยสัญญายืมตัว ในฤดูกาล1987-1988

กลับมาแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดอีกครั้ง[แก้]

ในเดือนพฤษภาคม ปี1988 ฮิวส์กลับมาร่วมทีมแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดอีกครั้งภายใต้การคุมทีมของ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสันผู้จัดการทีมคนใหม่ ด้วยค่าตัว 1ล้าน8แสนปอนด์ และการกลับมายังโอลด์ แทรฟฟอร์ดหนนี้เขาทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม และกลายเป็นดาวยิงคนสำคัญของทีม

เขาได้รับเลือกให้เป็นนักฟุตบอลยอดเยี่ยมของพีเอฟเอ ในฤดูกาล 1988-1989 ซึ่งเป็นปีแรกที่เขากลับมาอังกฤษอีกครั้ง แต่สโมสรยังมีผลงานไม่ดีนักเมื่อจบฤดูกาลด้วยอันดับที่ 11 ปีต่อมาเขายิงคนเดียว2ประตู ใส่คริสตัล พาเลซในเอฟเอคัพนัดชิงชนะเลิศซึ่งเสมอกันไป3-3 ก่อนที่ลี มาร์ตินจะยิงประตูชัยในนัดแข่งใหม่ ส่งผลให้แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดคว้าแชมป์ได้เป็นครั้งแรกในรอบ5ปี และในฤดูกาล1990-1991เขายิงประตูใส่บาร์เซโลนาทีมเก่าของเขาส่งผลให้ทีมได้แชมป์ยูฟ่า คัพ วินเนอร์สคัพ และเขายังพาทีมแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดเข้าถึงรอบชิงชนะเลิศลีกคัพ แต่ทีมกลับพลิกล๊อคพลาดท่าให้กับเชฟฟิลด์ เว้นส์เดย์ในนัดชิงชนะเลิศ 1-0

ฤดูกาล1991-1992 ฮิวส์ต้องพลาดเหรียญแชมป์ลีกสูงสุดอย่างน่าเสียดายเมื่อลีดส์ ยูไนเต็ดเข้าป้ายอันดับที่1เมื่อจบฤดูกาล แต่ทีมของเขาก็ยังคว้าแชมป์ลีกคัพมาครองได้สำเร็จเป็นรางวัลปลอบใจเมื่อสามารถเอาชนะน็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ได้ในนัดชิงชนะเลิศ 1-0 จากประตูชัยของไบรอัน แม็คแคลร์

ในที่สุดฤดูกาล1992-1993 เขาก็คว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกกับสโมสรได้เป็นครั้งแรก และในปี 1993-1994เขาก็ยังเป็นกำลังสำคัญที่ช่วยให้แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดคว้าดับเบิ้ลแชมป์โดยทีมสามารถป้องกันแชมป์ลีกและยังคว้าแชมป์เอฟเอคัพ โดยในถ้วยเอฟเอคัพฮิวส์เป็นหนึ่งในนักเตะที่ยิงประตูในนัดชิงชนะเลิศที่ชนะเชลซี 4-0

ฤดูกาล1994-1995 ทีมทำท่าว่าจะสร้างผลงานอันสุดยอดเมื่อมีลุ้นคว้าดับเบิ้ลแชมป์อีกสมัย โดยในลีกทีมต้องแย่งแชมป์กับแบล็กเบิร์นโรเวอส์และยังสามารถเข้าถึงรอบชิงชนะเลิศในถ้วยเอฟเอคัพได้สำเร็จ แต่ทีมกลับต้องพบกับความผิดหวังเมื่อในนัดสุดท้ายของพรีเมียร์ลีกทำได้เพียงแค่เสมอกับเวสต์แฮม ยูไนเต็ด 1-1 ทำให้แบล็กเบิร์นโรเวอส์คว้าแชมป์ลีกไปครองโดยมีคะแนนมากกว่าแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดเพียงแค่แต้มเดียวเท่านั้น ส่วนในเอฟเอคัพทีมต้องชิงแชมป์กับเอฟเวอร์ตัน แต่ก็ต้องผิดหวังซ้ำสองเมื่อ พอล ไรด์เอาท์นักเตะทีมเอฟเวอร์ตันยิงประตูชัยพาเอฟเวอร์ตันคว้าแชมป์ในที่สุด และฤดูกาลนั้นเป็นปีสุดท้ายของเขาในโอลด์ แทรฟฟอร์ด

เชลซี[แก้]

การมาถึงของแอนดี โคลทำให้เขาต้องพบกับความยากลำบากในการเป็นผู้เล่นตัวจริง เขาจึงตัดสินใจย้ายทีมไปเล่นให้กับเชลซีด้วยค่าตัว1ล้าน8แสนปอนด์ โดยเขาย้ายออกจากแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดในเวลาเดียวกับพอล อินซ์และอังเดร แคนเชสกี้ซึ่งย้ายออกไปร่วมทีมอินเตอร์ มิลานและเอฟเวอร์ตัน อย่างไรก็ดีการขายผู้เล่นคนสำคัญในทีมออกถึง3ราย กลับไม่ส่งผลต่อกระทบแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดมากนักเมื่อทีมคว้าดับเบิ้ลแชมป์ได้อีกสมัยในฤดูกาล1995-1996

มาร์ก ฮิวส์เป็นหนึ่งในผู้เล่นตัวหลักของเชลซีโดยคู่หูในแดนหน้าของเขาคือจิอันฟรังโก้ โซล่า ในฤดูกาล1996-1997 เขาสามารถคว้าแชมป์เอฟเอคัพร่วมกับทีมได้สำเร็จเมื่อเอาชนะมิดเดิลสโบรช์2-0 ในนัดชิงชนะเลิศ

ฤดูกาล1997-1998เป็นปีสุดท้ายของเขาและเชลซี ซึ่งเขาสามารถคว้าแชมป์ยูฟ่า คัพ วินเนอร์สคัพได้อีกสมัยโดยเอาชนะสตุ๊ทการ์ทได้1-0ในรอบชิงชนะเลิศ

เซาแทมป์ตัน[แก้]

ฤดูกาล1998-1999 มาร์ก ฮิวส์ย้ายมาร่วมทีมเซาแทมป์ตันด้วยค่าตัว 6แสน5หมื่นปอนด์ภายใต้การคุมทีมของเดฟ โจนส์ ด้วยวัยที่มากขึ้นทำให้เขายิงประตูไม่มากเหมือนเมื่อก่อนจึงปรับเปลี่ยนไปเล่นตำแหน่งกองกลาง ประสบการณ์ของเขายังช่วยทีมได้มากสำหรับการต่อสู้ในพรีเมียร์ลีก 2ประตูที่เขาทำได้เกิดขึ้นในเกมส์พบแบล็กเบิร์นโรเวอส์ซึ่งเป็นทีมที่เขาย้ายไปเล่นให้ในเวลาต่อมา และเกมส์พบนิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ดในวันที่ 15 สิงหาคม 1999 ซึ่งเป็นลูกวอลเล่ย์สุดสวยที่อยู่ในความทรงจำของแฟนบอลหลายคน โดยในฤดูกาล 1998-1999 ฤดูกาลแรกของเขากับทีมเขาได้รับใบเหลืองถึง14 ใบ ซึ่งมากที่สุดในพรีเมียร์ลีก ในเดือนสิงหาคม ปี1999เขาได้รับแต่งตั้งให้เป็นผู้จัดการทีมชาติเวลส์ในขณะที่ยังไม่ได้แขวนสตั๊ด

เอฟเวอร์ตันและแบล็กเบิร์นโรเวอส์[แก้]

เมื่อเกล็น ฮ็อดเดิ้ลกลายเป็นผู้จัดการทีมคนใหม่ของเซาแทมป์ตัน มาร์ก ฮิวส์ในวัย36ปี ก็กลายเป็นนักเตะที่ไม่ได้อยู่ในแผนการทำทีม เขาจึงย้ายไปร่วมทีมเอฟเวอร์ตันและมีบทบาทในฐานะผู้เล่นน้อยลงตามวัย แต่ยังคงทำหน้าที่เป็นผู้จัดการทีมชาติเวลส์ต่อไป และเขาตัดสินใจย้ายมาเล่นในลีกระดับล่างเป็นครั้งแรกในฤดูกาล 2000-2001

เขากลายมาเป็นผู้เล่นคนสำคัญของแบล็กเบิร์นโรเวอส์และสามารถพาทีมคว้ารองแชมป์ดิวิชั่น1 (ปัจจุบันคือลีกแชมเปียนชิพ) พร้อมกับเลื่อนชั้นขึ้นมาเล่นในพรีเมียร์ลีกได้สำเร็จหลังจบฤดูกาล2000-2001

ฤดูกาล2001-2002แบล็กเบิร์นโรเวอส์สามารถคว้าแชมป์ลีกคัพได้สำเร็จและนั่นเป็นการชูถ้วยแชมป์ครั้งสุดท้ายของเขาก่อนที่จะประกาศเลิกเล่นในเดือนกรกฎาคม ปี 2002ก่อนอายุครบ39ปีเพียงไม่กี่เดือน

อาชีพผู้จัดการทีม[แก้]

ทีมชาติเวลส์[แก้]

มาร์ก ฮิวส์รับตำแหน่งผู้จัดการทีมชาติเวลส์ในปี 1999 ในขณะเป็นผู้เล่นของเซาแทมป์ตัน โดยเขารับงานต่อจากบ็อบบี้ กูลด์ และทำผลงานได้อย่างดีจนได้รับสัญญาระยะยาว ในช่วงเวลา5ปีของเขาในตำแหน่งผู้จัดการทีมชาติ เขาเกือบพาทีมผ่านเข้าไปเล่นในศึกฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรปปี 2004 แต่ก็ต้องผิดหวังเมื่อทีมแพ้ต่อทีมชาติรัสเซียในรอบเพลย์ออฟ

แบล็กเบิร์นโรเวอส์[แก้]

แม้จะทำผลงานได้ดีกับทีมชาติเวลส์ แต่ฮิวส์ก็ลาออกจากตำแหน่งผู้จัดการทีมชาติในเดือนกันยายน ปี 2004 เพื่อไปรับงานคุมทีมแบล็กเบิร์นโรเวอส์ทีมเก่าของเขาในพรีเมียร์ลีกอย่างเต็มตัวหลังจากเขานั่งควบ2ตำแหน่งทั้งผู้จัดการทีมชาติเวลส์และผู้จัดการชั่วคราวของแบล้คเบิร์น โรเวอร์สในปลายฤดูกาล2003-2004 ผลงานของเขาในปีนั้นคือการพาทีมรอดจากการตกชั้น และนำสโมสรเข้าถึงรอบ4ทีมสุดท้ายในเอฟเอคัพได้เป็นครั้งแรกในรอบ40ปี

ฤดูกาล2004-2005 ปีที่2ของเขากับทีมฮิวส์นำแบล็กเบิร์นจบฤดูกาลด้วยอันดับ6อย่างเหลือเชื่อ และได้ไปเล่นยูฟ่า คัพเมื่อจบฤดูกาล โดยในลีกทีมของเขาสามารถเอาชนะเชลซี, และชนะแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดทั้งนัดเหย้าและนัดเยือน รวมทั้งยังสมารถเอาชนะอาร์เซนอลได้สำเร็จ และทีมของเขายังเข้าไปชิงชนะเลิศถ้วยลีกคัพก่อนจะแพ้เชลซีไป1-0ทำให้ได้แค่รองแชมป์

วันที่ 4 พฤษภาคม ปี2006 จากผลงานอันยอดเยี่ยม ฮิวส์และผู้ช่วยของเขามาร์ก โบเวนได้รับการต่อสัญญาต่อไปอีก3ปี สัญญาฉบับนี้จะทำให้เขาอยู่กับทีมจนถึงช่วงฤดูร้อนของปี 2009

การสร้างทีมของเขาในอีวู้ด ปาร์คนั้นเขาได้ซื้อตัวผู้เล่นคนสำคัญของทีมเช่นเบนนี่ แม็คคาร์ธี่ย์ (2ล้านปอนด์),เดวิด เบนท์ลี่ย์ (5แสนปอนด์),ไรอัน เนลเซ่น (ฟรี) รวมถึงการได้ยอดกองหน้าอย่างโรเก้ ซาน ตา ครูซ (3ล้าน5แสนปอนด์) และกองหลังจอมโหดอย่าง คริสโตเฟอร์ แซมบ้า (4แสนปอนด์) แบล็กเบิร์นจบฤดูกาลด้วยอันดับ10 ในฤดูกาล2006-2007 และผ่านเข้าถึงรอบน็อคเอาท์ในศึกยูฟ่าคัพ ก่อนจะแพ้ไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่นด้วยประตูรวม3-2 ส่วนในเอฟเอคัพเขาพาทีมเข้าถึงรอบรองชนะเลิศได้อีกครั้งและเป็นครั้งที่3ของทีม นับแต่ฮิวส์เข้ารับตำแหน่ง และฤดูกาลนั้นเขาได้รับเลือกให้เป็นผู้จัดการทีมยอดเยี่ยมประจำเดือนตุลาคม

ฤดูกาล2007-2008 ฮิวส์พาทีมเก็บชัยชนะได้ถึง15นัด และจบฤดูกาลด้วยอันดับ7 โดยโรเก้ ซาน ตา ครูซกองหน้าที่เขาซื้อมายิงประตูในลีกได้ถึง19ประตูในฤดูกาลแรกที่มาร่วมทีม

แมนเชสเตอร์ซิตี[แก้]

หลังจบฤดูกาล2007-2008 พ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตรประธานสโมสรแมนเชสเตอร์ซิตีในขณะนั้นสั่งปลด สเวน โกรัน อิริคสัน ออกจากตำแหน่งผู้จัดการทีมและแต่งตั้งมาร์ก ฮิวส์เป็นผู้จัดการทีมคนใหม่ในเดือนมิถุนายน ปี2008 ด้วยสัญญา3ปี

เดือนกันยายน ปี 2008 เกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในสโมสรเมื่อ แมนเชสเตอร์ซิตีถูกเทคโอเวอร์โดยกลุ่มADUG (Abu Dhabi United investment group) ซึ่งเป็นกลุ่มมหาเศรษฐีอาหรับ โดยมีการประเมินว่ามีทรัพย์สินมากกว่าโรมัน อับราโมวิชเจ้าของสโมสรเชลซีอยู่หลายเท่า และนั่นทำให้มาร์ก ฮิวส์มีเงินมหาศาลในการซื้อตัวนักเตะระดับโลกเข้าสู่สโมสร โดยการซื้อตัวผู้เล่นที่สั่นสะเทือนเกาะอังกฤษครั้งใหญ่ที่สุดคือการที่เขาซื้อตัวโรบินโญ่ดาวเตะบราซิลมาจากรีล มาดริดด้วยค่าตัวมากที่สุดในประเทศที่32ล้าน4แสนปอนด์

ฟูแลม แชมป์ ยูฟ่าแชมป์เปี้ยนลีก[แก้]

ควีนส์พาร์กเรนเจอร์ส[แก้]

สโตกซิตี[แก้]

มาร์ก ฮิวส์ โดนสโมสร สโตกซิตี ประกาศปลดหลังจากทำทีมตกรอบในศึกเอฟเอคัพ เมื่อวันที่ 6 มกราคม 2561 หลังจากแพ้โคเวนทรี ซิตี้ 1-2 [1] ในขณะที่อันดับในพรีเมียร์ลีกก็อยู่ในเกณฑ์ตกชั้นเช่นกัน

ผลงาน[แก้]

สมัยเป็นผู้เล่น[แก้]

  • ได้รับเลือกให้เข้าสู่หอเกียรติยศของนักฟุตบอลอังกฤษ ปี2007
แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด
เชลซี
แบล็กเบิร์นโรเวอส์
  • ดิวิชั่น 1 (ปัจจุบันคือ ลีกแชมเปียนชิพ) รองแชมป์: ฤดูกาล 2000-2001
  • ลีกคัพ แชมป์: ฤดูกาล 2001-2002

อ้างอิง[แก้]

  1. ↑ "สโต๊ค ไล่ มาร์ก ฮิวจ์! เซ่นพ่ายทีมลีกทู". SMMSPORT.com 7 ม.ค. 2561. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2008-10-28. สืบค้นเมื่อ 2022-04-17. {{cite web}}: ตรวจสอบค่า |url= (help)
เข้าถึงจาก "https://th.wikipedia.org/w/index.php?title=มาร์ก_ฮิวส์&oldid=11519700"